บาคาร่าเว็บตรงเลขาฯ ศาลจ่อนำเรื่องผู้พิกาษายะลายิงตัวเข้าประชุมก.ต.

บาคาร่าเว็บตรงเลขาฯ ศาลจ่อนำเรื่องผู้พิกาษายะลายิงตัวเข้าประชุมก.ต.

จากกรณีที่ นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา บาคาร่าเว็บตรงใช้อาวุธปืนจ่อยิงหน้าอกด้านซ้าย 1 นัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในศาลจังหวัดยะลา ล่าสุด นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ได้เผยถึงความคืบหน้ากรณีนี้

โดยกล่าวว่าในวันที่ 7 ต.ค. นี้ จะมีการประชุม คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม และตนในฐานะเลขานุการ 

จะทำหน้าที่นำเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ รายงานในที่ประชุม ซึ่งก็ต้องดูว่าเมื่อมีการนำเรื่องดังกล่าวรายงานที่ประชุมเเล้ว ก.ต.จะมีความเห็นอย่างไรต่อไป

 ส่วนสาเหตุการยิงตัวเองของผู้พิพากษาที่มีการออกเเถลงการณ์ว่า มาจากการถูกเเทรกการพิจารณาพิพากษาคดีนั้น นายสราวุธ กล่าวว่า ก.ต.เป็นองค์กรซึ่งทำหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม มีหน้าที่ในการพิจารณาเเต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนชั้น มีอำนาจให้คุณให้โทษ ผู้พิพากษาที่กระทำความผิด อีกทั้งยังมีหน้าที่คุ้มครองความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของผู้พิพากษาด้วย เพราะฉะนั้น ขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น ก.ต.จะเป็นผู้พิจารณาเเละมีมติพื่อดำเนินการต่อไป

จากกรณีชายอ้างตัวเป็นเสี่ยหมื่นล้านหลอกพริตตี้ชาวบุรีรัมย์แต่งงาและจดทะเบียนสมรส จัดงานใหญ่ในโรงแรมหรูก่อนทิ้งหนี้ 3.5 ล้านบาท ทำให้พริตตี้รายดังกล่าวต้อวเข้าร้องทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และพบว่า ‘เสี่ยท็อป’ รายนี้ จริงๆ แล้วเป็นพ่อค้าเห็ดทอด ล่าสุด แม่ค้าข้าวต้มมัดร่วมตลาดซึ่งตั้งอยู่ใน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้เผยว่า นายท็อปได้เคยไปขายเห็ดกับภรรยา อายุ 54 ปี

แม่ค้าข้าวต้มมัดรายนี้ เล่าว่า นายท็อปนั้นมีอาชีพขายเห็ดทอดและเห็ดสดอยู่ที่ตลาดนัดเดียวกับตน ซึ่งตัวเขาเองมาขายบ้าง ไม่มาบ้าง ปกติจะให้ภรรยามาขายกับแม่ยายและน้องสาวภรรยา โดยทุกครั้งที่มาเสี่ยกำมะลอจะแต่งตัวหล่อ ดูดี ซึ่งตนไม่เคยถามรายละเอียดเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก มีแต่ภรรยาที่เคยมาเล่าให้ฟังว่าสามีไปต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าตัวเสี่ยนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร เพราะตนเองก็ไม่กล้าถาม 

ตนเห็นว่านายท็อปขายเห็ดทอดกับภรรยาประมาณปีกว่า เปิดขายทุกวัน เพราะตลาดนัดเปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร แต่มาช่วงหลังปีใหม่ก็เริ่มไม่เห็นนายท็อปอีก โดยนายท็อปเคยบอกกับตนว่าจะทำฟาร์มเห็ด ส่วนภรรยาก็ไม่ออกมาขายเห็ดทอดอีกเช่นกัน

ที่ผ่านมานั้น เสี่ยกำมะลอรายนี้ไม่ค่อยคุยกับคนในตลาด ซึ่งครั้งแรกที่ตนเห็นนั้น เสี่ยกำมะลอจะขับรถเบนซ์ หรือรถกระบะมาที่ตลาด ก่อนที่ช่วงหลังจะเห็นขับรถซาเล้งมาแทน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ารถที่ขับมานั้น เป็นรถของนายท็อปหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ ตนก็คิดว่านายท็อปร่ำรวยจริง พอมาเห็นข่าวก็ตกใจ ไม่นึกว่าคนที่รู้จักจะเป็นคนหลอกลวงได้เพียงนี้ และภรรยาที่ขายเห็ดอยู่นั้นก็โดนหลอกจนหมดตัวเช่นกัน

ไม่เว้นแม้แต่พระ เสี่ยหมื่นล้านตุ๋นวัดในนครพนมจะสร้างศาลา 30 ล้าน แต่ยังมีแค่ซาก

จากกรณีที่พริตตี้ชาวบุรีรัมย์เข้าร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ว่าถูกเสี่ยท็อป ที่อ้างตัวว่ารวยเป็นหมื่นล้าน และหลอกให้แต่งงาน จดทะเบียนสมรสด้วย โดยมีงานแต่งงานใหญ่โตและสุดท้ายทิ้งหนี้ไว้ให้เจ้าสาว 3.5 ล้านบาท ก่อนพบว่าเจ้าบ่าวเป็นเสี่ยกำมะลอ ล่าสุดมีพระจากวัดดังในจ.นครพนม อกกมาแฉพฤติกรรมของเสี่ยปลอมรายนี้เพิ่มเติม

 เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมามีรายงานว่า พระมานพ อุฏฐาจี จากวัดศรีเทพประดิษฐานราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม อายุ 51 ปี ได้เล่าว่า เมื่อประมาณปลายปี 2561 มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเล่น โยมแอ๊ด บอกมีคนประสงค์จะเป็นเจ้าภาพบูรณะศาลาพระเทพสิทธาจารย์ โดยนั่งพูดคุยกันจนเป็นที่ตกลง จากนั้นได้ว่าจ้างบริษัทในจ.สมุทรปราการ โดยมีชื่อนายธนณัฏฐ์ สิริปิยาพร หรือเสี่ยท็อป และคณะ เป็นเจ้าภาพ ในโครงการบูรณะศาลาพระเทพสิทธาจารย์วงเงิน 30 ล้านบาท สัญญาเริ่มต้นวันที่ 6 ม.ค.2562 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 6 ม.ค.2563 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 250 วัน แต่ผู้รับเหมาได้สั่งอุปกรณ์ในการก่อสร้างมากองไว้ด้านหลังศาลา จากนั้นเมื่อขอเบิกเงินจากเสี่ยท็อปก็โดนบ่ายเบี่ยงมาตลอด

โยมแอ๊ด ซึ่งไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวกับเสี่ยกำมะลอแบบไหน ได้มาพูดคุยกับพระมหาโดม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ได้เปิดบัญชีในนามชื่อของเสี่ยท็อป ขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา แต่เจ้าอาวาสเห็นว่าไม่เหมาะสม ทำให้โยมแอ๊ดไม่พอใจรีบออกจากวัดไป และไม่กลับเข้ามาอีกเลยจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ ขณะที่ผู้รับเหมาไม่ได้เงินงวดแรกจากเสี่ยท็อป และก็ไม่ยอมลงมือสร้าง อีกทั้งยังได้ก็ไม่ยอมลงมือสร้างไปแล้ว ซึ่งพระมานพกล่าวทิ้งท้ายว่าวัดยังโชคดีที่ไม่ยอมทำตามเสี่ยท็อปที่ให้ทุบศาลาเดิมทิ้งทั้งหมด จะมีเพียงประตูที่ได้รื้อออกเพื่อเตรียมบูรณะเท่านั้น

ส่วนนายวินัย ชิดเชี่ยวกำนันตำบลกะรน กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยเป็นคนในพื้นที่ จึงเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และจากการร้องเรียนที่ผ่านมาการปฏิบัติงานของคนในพื้นที่ก็ค่อนข้างหนักใจ ซึ่งถือว่าโชคดีที่อธิบดีกรมป่าไม้ลงพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานในการรักษาพื้นที่ป่า การให้แนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน รวมถึงแนวทางในการอนาคตที่ให้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามแนวทางของป่าชุมชนตามระเบียบกฎหมาย โดยพื้นที่ทั้งหมดถูกบุกรุกจากคนภายในนอก โดยเฉพาะพื้นที่หาดนุ้ย นับเป็นพื้นที่ที่มีปัญหามานาน ทั้งการยิงข่มขู่ การทำร้ายร่างกาย การเรียกเก็บเงิน จนเป็นที่หวาดกลัวของคนในพื้นที่ ซึ่งการบูรณาการความร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการคืนพื้นที่ให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งแม้เราต้องการให้แล้วเสร็จโดยเร็วแต่ก็ต้องใช้เวลา เพราะมีเรื่องของข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง หากสำเร็จก็จะเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้สูงยิ่งๆ ขึ้นบาคาร่าเว็บตรง